เติมไวอากร้าให้สังคมที่เหี่ยวเฉา "Irrational Man"
หนังของ วู้ดดี้ อัลเลน ที่ผ่านมาในอดีต มักมีส่วนผสมระหว่างการเป็นหนังตลกแบบมึนงง กับอารมณ์หม่นของคนประสาท ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีอารมณ์ ตัวละคร และการดำเนินเรื่องใกล้เคียงกัน แต่สำหรับหนังของเขาอย่าง Irrational Man นี้มีความผิดแปลกไปจากเดิมเล็กน้อย นั่นคือการเติมอารมณ์รุนแรงโกรธเกรี้ยวให้แก่ตัวละคร และผลักดันให้เรื่องนั้นดูหลุดโทนจากหนังของเขาที่เคยเป็นมาเล็กน้อย โดยในกรณีเรื่องนี้มันเหมือนจะหนักข้อในด้านปรัชญาความคิดซึ่งทำให้เรื่องราวทั้งน่าสนใจและบ้าบอในคราวเดียวกัน
เหตุที่เป็นเช่นนั้น ไม่ใช่อื่นใดเลยนอกจากเขาได้ตัวละครและฉากตามท้องเรื่องที่เหมาะสม นั่นคือ ในมหาวิทยาลัย อะไรที่มันดูคลุ้มคลั่งทางความคิดและการกระทำที่ดูหมกมุ่นบ้าบอ ซึ่งเหมาะกับนักคิดและนักศึกษา ก็ออกมาระเริงกันอย่างเต็มที่ พระเอกของเรื่อง เอบ ลูคัส (วาคิน ฟินิกซ์) เป็นศาสตราจารย์ด้านปรัชญา ซึ่งเข้ามารับงานที่มหาวิทยาลัยเล็กๆ น่าอยู่แต่จืดชืดทางบรรยากาศสังคม เขาเป็นคนมีอดีตเต็มไปหมดและทำให้เกิดเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า อดีตเมียของเขาหนีไปกับชู้ที่เป็นเพื่อนซี้ของเขา เจ้าตัวติดเหล้าอย่างหนักและชอบสานสัมพันธ์กับนักศึกษา และภาวะคลุ้มคลั่งทางจิตก็ก่อตัวมากขึ้นด้วยการได้รับข่าวร้ายว่า เพื่อนของเขาอีกคนนั้นถูกระเบิดไม่เป็นชิ้นดีในสงครามแถบตะวันออกกลาง
จะว่าไปคนอย่างลูคัสเป็นเหมือนสีสันที่เข้ามาสู่ชุมชนทางวิชาการแห่งนี้ ไม่เพียงแต่หน้าที่ซึ่งเสมือนเติมไวอากร้าให้สังคมวิชาการที่เหี่ยวเป็นมะเขือเผา หากพฤติกรรมของเขายังหลุดโทนจากผู้คนในละแวกนี้ ซึ่งก่อให้เกิดสีสันและความน่าสนใจแบบประสาทๆ อีกด้วย เจ้าตัวประกาศกร้าวในวิชาปรัชญาว่า ปรัชญาส่วนใหญ่ก็เหมือนกับการสำเร็จความใคร่โดยคำพูดนั่นแหละ และจากนั้นก็มีมหกรรมโชว์คลั่งด้วยการเล่นรัสเซียนรูเล็ตเอากระสุน 1 นัดใส่เข้าไปในรังเพลิงของปืน และหมุนติ้วเพื่อจะลั่นไกเสี่ยงดวง อันเป็นการพิสูจน์แนวคิดอะไรบางอย่างต่อหน้าธารกำนัลในงานเลี้ยงของบุคลากรมหาวิทยาลัย
สาวสวย 2 คนที่ก้าวเข้ามาสู่ชีวิตของลูคัส คืออาจารย์ที่ระหองระแหงกับสามีอย่าง ริต้า ริชาร์ด (ปาร์คเกอร์ โพซีย์) กับนักศึกษาสาวผมบลอนด์ จิลล์ พอลลาร์ด (เอมม่า สโตน) เธอลงทะเบียนเรียนวิชากลยุทธ์ทางจริยธรรม ซึ่งนำไปสู่ความสนิทสนมกับลูคัส แน่นอนว่าลูคัสที่ชีวิตเหมือนล่องลอยก็เริ่มสดใสขึ้น จากเดิมที่เขาเคยเป็นนักเคลื่อนไหวตัวยงก่อนจะมาหงอยเหงาเศร้าซึมเบื่อโลก ตอนนี้กลับมาสดชื่นกระปรี้กระเปร่าอีกครั้ง เมื่อมีโครงการจะไปสังหารเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ทำงานโดยไม่ชอบ
หนังแสดงแนวคิดว่ามนุษย์ดำรงอยู่จริงด้วยตนเอง เป็นผู้กระทำและรับผลจากการกระทำเอง ขณะเดียวกันก็พาคนดูเข้าไปสู่ประเด็นการสนทนาและวิพากษ์วิจารณ์เหล่านักคิดขั้นเทพทั้งหลาย นอกจากนี้ตัวหนังยังได้สร้างพล็อตการฆาตกรรมที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งทำให้ วู้ดดี้ อัลเลน เป็นนักเล่าเรื่องลักษณะนี้ที่ยอดเยี่ยมต่อจาก อัลเฟรด ฮิทช์ค็อก ด้วยการตัดต่อที่เฉียบคมและการแสดงที่ยอดเยี่ยมของ วาคิน ฟินิกซ์ ซึ่งเล่นได้ดีแถมยังเป็นตัวละครที่หลุดพ้นไปจากการเลียนแบบวู้ดดี้ อัลเลน รวมถึง เอมม่า สโตน และ ปาร์คเกอร์ โพซี่ย์ อีกด้วย
