หนัง "Horror Franchise" ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ "Jigsaw"



กลับมาทวงบัลลังก์ความโหดอย่างเป็นทางการสำหรับภาพยนตร์เรื่อง Jigsaw ที่ล่าสุดได้เดินหน้าเปิดเกมสยองลงโรงภาพยนตร์ในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2017 เรียกได้ว่าต้อนรับเทศกาลวันฮาโลวีนในรูปแบบความสยองเกินบรรยายขั้นสุด งานนี้ทำให้แฟนๆ คอหนังสายโหดต่างพุ่งตัวไปตีตั๋วดูกันล้นหลาม จนสามารถทำเงินในช่วงสุดสัปดาห์สามวัน (27-29 ตุลาคม) ไปสูงถึง 16.25 ล้านเหรียญฯ ครองอันดับ 1 บนบ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐอเมริกา ขึ้นแท่นภาพยนตร์ระทึกขวัญ-สยองขวัญที่ห้ามพลาด


หากจะพูดถึงภาพยนตร์แฟรนไชส์สายระทึกขวัญ-สยองขวัญอันโด่งดัง ติดตาคนดูอันดับต้นๆ คงจะหนีไม่พ้นภาพยนตร์เรื่อง Saw หนึ่งในความทรงจำสุดโหดของใครหลายคน ซึ่งก่อกำเนิดมาตั้งแต่ปี 2004 และยาวนานถึง 7 ภาคด้วยกัน ทำรายได้รวมทั่วโลกกว่า 874 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยนอกจากจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีแล้ว Saw ยังถูกยกให้เป็นการสร้างคำจำกัดความใหม่ให้ภาพยนตร์สยองขวัญ เนื่องจากเป็นส่วนผสมระหว่างความน่ากลัว ปริศนาเกินคาดเดา และความโหดเลือดสาดเหนือคำบรรยาย


ไอเดียเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้เกิดขึ้นโดย เจมส์ วาน และ ลี วานเนลล์ เริ่มโปรเจกต์ Saw ในปี 2004 สร้างตัวละครที่น่าจดจำตัวหนึ่งในโลกหนังสยองขวัญ จิ๊กซอว์ เจ้าแห่งเกมเชือดสุดโหด สำหรับภาคที่ 8 ในชื่อ Jigsaw นี้ โปรดิวเซอร์เลือกพี่น้องนักทำหนังมากพรสวรรค์ชาวออสซี่  ไมเคิล สเปียริก และ ปีเตอร์ สเปียริก (Daybreakers, Predestination) สองผู้กำกับที่ผ่านผลงานเขย่าขวัญปั่นประสาทมาไม่น้อย แถมได้มือเขียนบทเข้มข้นอย่าง พีต โกลด์ฟิงเกอร์ และ จอช สตอลเบิร์ก ร่วมกลั่นความสยองโดยใช้เวลาเขียนถึง 2 ปี สร้างบทที่อุดมไปด้วยความระทึกที่จะมอบประสบการณ์ใหม่ที่คนดูไม่เคยเห็นมาก่อน


Jigsaw เตรียมกลับมาพร้อมกับการเปิดเกมใหม่ส่งกับดักครีเอตความตายที่ยกระดับความน่ากลัวมากขึ้นหลายเท่าตัว พร้อมกับเรื่องราวที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อตำรวจได้พบศพที่ล้วนจบชีวิตด้วยกลวิธีสยองพองเกล้า ซึ่งทุกหลักฐานของการสืบสวนล้วนชี้ตัวไปที่ จอห์น เครเมอร์ หรือ จิ๊กซอว์ ที่ตายไปแล้วหลายปี เงื่อนงำนี้จึงนำไปสู่การไขคำตอบและไล่ล่าตัวว่าใครกันที่มารับช่วงต่อของความโหดนี้ ก่อนที่จะมีผู้ตกเป็นเหยื่อการทรมานสุดวิปริตของมัน

Credit : IMDB, sahamongkolfilm, Serendipity Productions, Twisted Pictures (presents), A Bigger Boat

Go to TOP