"Mary and the Witch's Flower" แอนิเมชันเรื่องแรกที่ใช้ซอฟต์แวร์ OpenToonz



OpenToonz เป็นซอฟต์แวร์สำหรับแอนิเมชัน 2D ที่มีลักษณะเป็นโปรแกรม Open-source software ที่คนทั่วไปสามารถนำไปใช้ได้ฟรีและปรับปรุงได้ด้วยตนเอง OpenToonz มีฟีเจอร์หลายอย่างที่เคยได้รับการสั่งทำขึ้นเฉพาะโดย Studio Ghibli โดยผู้พัฒนาซอร์ฟแวร์ตัวนี้ได้พัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ด้านวิชวลเอฟเฟกต์ และยังมีปลั๊กอินที่ทำให้ผู้ใช้ใส่เอฟเฟกต์ได้ด้วยตัวเอง และโปรแกรมยังสามารถปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมตาม Feedback ระหว่างใช้งานได้อีกด้วย

โดยในเรื่อง Mary and the Witch's Flower ได้ใช้งาน OpenToonz ในด้านต่างๆ ดังนี้
- ฟังก์ชั่น Pallete และฟังก์ชั่นการแสดงตัวอย่าง (ช่วยให้ผู้ใช้ดูตัวอย่างภาพตัวละครและพื้นหลังที่ซ้อนทับกันอยู่ได้ ) ถูกนำมาใช้ในขั้นตอนการออกแบบสีที่สามารถปรับเปลี่ยนให้สีของตัวละครให้เข้ากับพื้นหลังได้
- ระหว่างกระบวนการถ่ายทำ Magical Bubbles (ฟองเวทมนตร์) ที่ปรากฏในภาพยนตร์ถูกสร้างขึ้นโดยใช้เอฟเฟกต์พิเศษที่สร้างลวดลายรุ้งบนฟองสบู่
- เครื่องมือสแกน GTS ที่มาพร้อมกับโปรแกรม OpenToonz ถูกใช้ในระหว่างกระบวนการสแกนภาพที่แอนิเมเตอร์วาดมาจากกระดาษ

แม้  Mary and the Witch's Flower จะเป็นแอนิเมชันเรื่องแรกที่ใช้โปรแกรม OpenToonz แต่ทาง Dwango บริษัทเจ้าของโปรแกรมนี้มีแผนที่จะพัฒนาโปรแกรมต่อโดยฟังความคิดเห็นจากเหล่าผู้ใช้ในวงการแอนิเมชันญี่ปุ่นต่อไป


จุดเริ่มต้นของ Mary and the Witch's Flower หนังแอนิเมชันเรื่องแรกของ Studio Ponoc เกิดขึ้นเมื่อ โยชิอากิ นิชิมูระ โปรดิวเซอร์มากฝีมือแห่ง Studio Ghibli ที่เคยอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Howl's Moving Castle (2004) และมีผลงานที่ได้ชิงรางวัลออสการ์สาขาแอนิเมชันยอดเยี่ยมถึงสองเรื่องได้แก่ The Tale of Princess Kaguya (2013) และ When Marnie Was There (2014)  เขาตัดสินใจเปิดสตูดิโอใหม่ขึ้นมาเป็นของตัวเองในเดือนเมษายนปี 2015  โดยได้แอนิเมเตอร์หลายคนจากสตูดิโอจิบลิตามมาอยู่ที่สตูดิโอใหม่นี้ด้วย โดยชื่อของสตูดิโอได้มาจากภาษา Serbo-Croatian ว่า Ponoc ซึ่งแปลว่า เที่ยงคืน ซึ่งสื่อความหมายว่าเป็นจุดเริ่มต้นของวันใหม่เหมือนกับที่พวกเขาได้สานต่อตำนานอันยิ่งใหญ่ของสตูดิโอจิบลิให้มาสู่ยุคใหม่ในสไตล์ของตัวเอง โดยสัญลักษณ์ของบริษัทยังเป็นรูปนาฬิกาที่เข็มนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนอีกด้วย


โยชิอากิ นิชิมูระ ยังได้เปิดเผยสาเหตุที่ทีมงานตัดสินใจสร้างหนังก็คือ เมื่อครั้งตอนที่ทีมงานนำเรื่อง When Marnie Was There ของจิบลิไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์ในประเทศฟินแลนด์ แล้วมีเด็กหญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 5 ปีเดินเข้ามาขอลายเซ็นของผู้กำกับ ฮิโรมาสะ โยเนบายาชิ อย่างอายๆ  ด้วยความเอ็นดูเด็กผู้หญิงคนนี้ ผู้กำกับฮิโรมาสะ จึงวาดภาพตัวละคร Marnie ให้กับเธอ และเด็กหญิงตัวน้อยก็แสดงอาการดีใจมีความสุขมาก เธอจึงได้กลายมาเป็นต้นแบบของแมรี่ในเรื่องนี้

Credit: imdb, sahamongkolfilm, Studio Ponoc, Amuse, Chukyo TV, D.N. Dream Partners, Dentsu, Fukuoka Broadcasting, Hakuhodo DY Media Partners, Hiroshima Telecasting (HTV), Kadokawa, Kenon, Khara Corporation, Lawson, Line, Miyagi Television Broadcasting, Nippon Television Network (NTV), Sapporo Television Broadcasting Company, Shizuoka Daiichi Television, Tamborine Sound Studios, Toho, Walt Disney Studios Japan, The Yomiuri Shimbun, Yomiuri Telecasting Corporation (YTV)

Go to TOP