รวม 7 ความยิ่งใหญ่ "Hunter Killer" สงครามเรือดำน้ำเพชฌฆาตสุดระห่ำ

"Hunter Killer สงครามอเมริกาผ่ารัสเซีย" คือผลงานที่จะอุบัติความมันส์ด้วยการอำนวยการสร้างโดยทีมโปรดิวเซอร์ Fast & Furious และ Olympus Has Fallen ว่าด้วยเรื่องราวของ กัปตันเรือดำน้ำที่ไม่เคยออกศึกมาก่อนต้องร่วมมือกับหน่วยซีลเพื่อช่วยเหลือประธานาธิบดีรัสเซียที่ถูกจับเป็นเชลย หลังจากเกิดการปฏิวัติโดยทหารที่มีผู้นำคืออดีตนายพลรัสเซียที่แปรพักตร์เพื่อหวังจะจุดชนวนสงครามโลกครั้งที่ 3


Hunter Killer สงครามอเมริกาผ่ารัสเซีย
วางจำหน่าย 30 มกราคม 2019 ในรูปแบบบลูเรย์และดีวีดี
สนใจสั่งซื้อ >> คลิกเลย!



1) ยุทธการโลกตะลึง เรือดำน้ำสหรัฐฯ ฝ่าคาบสมุทรคุ้มกันประธานาธิบดีรัสเซีย

เท่าที่ผ่านมาในหนังสงครามต่างๆ อเมริกาและรัสเซียสองประเทศยักษ์ใหญ่ต่างแย่งชิงความเป็นหนึ่ง แต่ครั้งนี้ถือเป็นความเซอร์ไพรส์ที่อาจจะเล่นเอาทั้งโลกอึ้ง เมื่อหน่วยรบของกองทัพเรือสหรัฐฯ จะมุ่งหน้าสู่ปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลือประธานาธิบดีรัสเซียใน "Hunter Killer" และถือเป็นการตีแผ่ภารกิจ "กอบกู้โลกในเงามืด" ของเหล่าทหารหาญที่พร้อมเสียสละชีวิตวีรกรรมใต้ทะเลลึกที่โลกไม่เคยรับรู้



2) ดัดแปลงจากหนังสือนิยายอันยอดเยี่ยม

"Hunter Killer" ดัดแปลงจาก "Firing Point" นิยายเขย่าขวัญที่บรรยายภาพทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในเรือดำน้ำได้อย่างสมจริง เพราะได้ประสบการณ์ตรงของ "จอร์จ วอลเลซ" อดีตผู้บังคับบัญชาระดับสูงของยูเอสเอส ฮิวส์ตันที่เคยใช้ชีวิตในฐานะกัปตันเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์เวอร์จิเนีย คลาสมาอย่างโชกโชน โดยเขาเลือกถ่ายทอดเหตุการณ์ที่บีบคั้นในพื้นที่จำกัดของเรือดำน้ำที่อัดแน่นไปด้วยบรรดาทหารเรือที่ต้องพบกับความกดดันขั้นสุด จนขับให้เบื้องลึกของมนุษย์เปิดเผยออกมาได้อย่างน่าประทับใจ



3) โปรดิวเซอร์แอคชั่นมือฉมังและผู้กำกับไฟแรงทุ่มสุดพลังลงรายละเอียดสุดสมจริง  

หนึ่งในหัวเรือสำคัญของโปรเจกต์ "Hunter Killer" คือ "จอห์น ธอมป์สัน" โปรดิวเซอร์รุ่นใหญ่ที่เคยกุมบังเหียนงานสร้างโปรเจกต์ฟอร์มยักษ์อย่าง The Expendables, Fast and Furious, Olympus Has Fallen, London Has Fallen และ The Hitman's Bodyguard รวมทั้งเป็นหนึ่งในทีมผู้อำนวยการสร้าง Hellboy เวอร์ชั่นใหม่

ส่วนคนที่จอห์น ธอมป์สันเลือกให้มารับหน้าที่กำกับคือ "โดโนแวน มาร์ช" ผู้กำกับไฟแรงที่ฝากผลงานไว้กับ Dollar$ + White Pipes, Spud และ Avenged ซึ่งทีมโปรดิวเซอร์มองเห็นความกล้าคิดกล้าทำของผู้กำกับคนนี้ที่จะมาเป็นผู้รับหน้าที่แปลงวัตถุดิบชั้นยอดให้กลายมาเป็นภาพยนตร์ที่สุดเร้าใจ



4) ภาพยนตร์เรื่องแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รับความร่วมมือจากกองทัพเรือสหรัฐฯอย่างเป็นทางการ

"โดโนแวน มาร์ช" และทีมงานรู้ดีว่าหากต้องการให้หนังเรื่องนี้ถ่ายทอดเรื่องราวได้แม่นยำที่สุด ความสมจริงของเรือดำน้ำยูเอสเอส อาร์คันซอ ฉากหลังสำคัญในเรื่องเป็นสิ่งที่พวกเขาจะมองข้ามไม่ได้เด็ดขาด พวกเขาได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากกระทรวงความมั่นคงและกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีทั้งการส่ง รัสเซล คูนส์ ผู้เชี่ยวชาญแห่งกองทัพมาเป็นที่ปรึกษาให้กับหนัง พร้อมกับเปิดโอกาสให้ทีมงานนักแสดงเข้าฝึกตามหลักสูตรจริงของกองทัพ เพื่อจำลองวิธีการรับมือเมื่อเกิดความเสียหายขึ้นกับตัวเรือ

ที่สำคัญที่สุด คือการอนุญาตให้ทีมงานเข้าไปเก็บภาพในเรือดำน้ำเวอร์จิเนีย คลาสของจริง ทั้งยังส่งทีมช่างเทคนิคมาให้คำปรึกษากับฝ่ายออกแบบงานสร้างอย่างใกล้ชิด ทำให้ทีมงานสามารถสร้างโมเดล 3 มิติ จำลองรูปลักษณ์และบรรยากาศออกมาได้อย่างสมจริงมากที่สุด ตั้งแต่มีการสร้างภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับเรือดำน้ำมาบนโลกภาพยนตร์



5) ความสมจริงที่กัปตันเรือดำน้ำตัวจริงยังต้องอ้าปากค้าง

ต้องยกความดีความชอบให้กับ "จอน เฮนสัน" ผู้ออกแบบงานสร้างที่ต้องมารับงานใหญ่ที่แบกรับความกดดันสูงสุดในเรื่องนี้ เขาทำงานอย่างหนักในการเก็บรายละเอียดทุกอย่างภายในเรือ เขาใช้เวลาอยู่หลายอาทิตย์กับทีมนักออกแบบของกองทัพเรือ ถ่ายรูปแทบทุกจุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ตั้งแต่ภาพกว้างทั้งหมด ทางเดิน ท่อ เครื่องจักร ปุ่มบังคับบนแผงควบคุมทั้งหมด รวมไปถึงสีของสายไฟที่เขาไม่ยอมปล่อยให้เล็ดลอดสายตาไปได้ "เราต้องการให้มันแม่นยำจนขนาดถ้ามีคนที่เคยขึ้นเรือเวอร์จิเนีย คลาสมาเยี่ยมที่ฉาก เขาจะจำมันได้ทันที" เฮนสันบอกถึงความตั้งใจสูงสุดเมื่อเขามารับหน้าที่ออกแบบงานสร้างในครั้งนี้

ผลที่ได้คือ ทันทีที่ "จอร์จ วอลเลซ" ผู้เขียนนิยายต้นเรื่องที่ใช้ชีวิตอยู่ในเรือเวอร์จิเนีย คลาสมาหลายปีถึงกับอ้าปากค้าง "มันสมจริงจนเหมือนผมอยู่บนเรือเวอร์จิเนียของจริงเลย ถ้านับหนังเรือดำน้ำทั้งหมดที่ผมเคยดูมา ผมว่าฉากเรื่องนี้สมจริงที่สุดแบบทิ้งห่างเรื่องอื่นไปหลายช่วงตัว"



6) อัดความเข้นข้นระทึกใจไว้ทุกภาคพื้น ทั้งใต้น้ำ แผ่นดิน และฐานทัพเพนตากอน

ถึงจะเป็นหนังสงครามเรือดำน้ำ แต่ใช่ว่าจะมีแค่ฉากที่อยู่ใต้น้ำ แต่ "Hunter Killer" ได้เพิ่มความน่าสนใจของเส้นเรื่องด้วยการถ่ายทอดเหตุการณ์ออกมาเป็น 3 ปฏิบัติการใหญ่ๆ นั่นคือปฏิบัติการใต้มหาสมุทรที่จะเป็นการเผชิญหน้าสุดมันส์ระหว่างเรือดำน้ำสหรัฐฯ และรัสเซีย เต็มไปด้วยความเข้มข้น ลุ้นระทึกบีบหัวใจ และภาพการต่อสู้ของเรือดำน้ำอันน่าชวนตะลึง

ในขณะที่ปฏิบัติการช่วยตัวประกันบนภาคพื้นดินของหน่วยซีลก็เข้มข้นไม่แพ้กัน เราจะได้เห็นปฏิบัติการชิงตัวประกันที่แข่งกับเงื่อนเวลาทุกวินาที เช่นเดียวกับการวางแผนแบบนาทีต่อนาทีของหน่วยบัญชาการบนตึกเพนตากอนระหว่างที่หน่วยรบใต้ทะเลและภาคพื้นดินออกปฏิบัติภารกิจภาคสนาม ซึ่งพวกเขาต้องชิงไหวชิงพริบและงัดเอาสงครามจิตวิทยามาเป็นกลยุทธสำคัญเพื่อก้าวนำหน้าฝ่ายตรงข้ามอยู่ตลอดเวลา




7) นักแสดงระดับแม่เหล็ก กับบทบาทที่เข้มข้นที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต

"เจอราร์ด บัตเลอร์"  รับบทเป็น "กัปตันโจ กลาส" กัปตันแห่งเรือดำน้ำยูเอสเอส อาร์คันซอที่ต้องแบกรับความรับผิดชอบใหญ่หลวงในภารกิจสำคัญที่เขาจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด เชื่อว่าเวลาพูดถึงเจอราร์ด บัตเลอร์ ภาพแรกที่จะขึ้นมาก่อนคือภาพของ "ลีโอไนดัส" กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ผู้นำนักรบสปาร์ตัน 300 คน ต่อสู้กับกองทัพเปอร์เซียนับแสน แต่ใน Hunter Killer เราจะได้เห็นอีกมุมหนึ่งของเขาที่นอกจากความแข็งแกร่งภายนอก เขาต้องใช้สติปัญญาที่แหลมคมและความหนักแน่นของจิตใจเพื่อรับมือกับความกดดันที่ถาโถมจากทุกทิศทาง

"แกรี โอลด์แมน" รับบทเป็น "พลเรือเอก ชาร์ลส ดอนเนแกน" ประธานของคณะกรรมาธิการทหาร ผู้คอยสั่งการทุกๆ ปฏิบัติการทั้งใต้น้ำและบนผืนดินอยู่ในตึกเพนตากอน ผู้แบกรับชะตากรรมของโลกนี้เอาไว้แต่เพียงผู้เดียว เพราะการตัดสินของเขามีโอกาสที่จะทำให้สงครามโลกครั้งที่ 3 มีสิทธิ "เกิด" หรือ "ยุติ" ได้ทันที

"คอมมอน" (แร็ปเปอร์, นักแต่งเพลงดีกรีออสการ์ และโปรดิวเซอร์มือทองที่ฝากผลงานโด่งดังไว้มากมายอย่าง Selma, Wanted และ John Wick: Chapter 2) รับบทเป็น "พลเรือตรี จอห์น ฟิสก์" ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในห้องปฏิบัติการ ดูแลปฏิบัติการทางทะเลในน่านน้ำสากล ฟิสก์ต้องร่วมมือกับนักวิเคราะห์ข้อมูลอาวุโสจากกระทรวงความมั่นคง "เจน นอร์ควิสต์" (ลินดา คาร์เดลลินี - ซีรีส์ Mad Men, Avengers: Age of Ultron, A Simple Favor) ในการเตรียมข้อเสนอสุดท้ายเพื่อหยุดสงคราม

"ไมเคิล นีควิสต์" (Girl With The Dragon Tattoo, John Wick และ Mission Impossible: Ghost Protocol) รับบทเป็น "กัปตันแอนโดรพอฟ" แห่งเรือดำน้ำรัสเซียที่ต่อกรกับกัปตันกลาสมาโดยตลอด เขาคืออีกหนึ่งตัวละครสำคัญที่เปรียบเสมือนหัวใจของเรื่อง เพราะการที่เขามาเผชิญหน้ากับกัปตันกลาส คือแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้คนอย่างกัปตันกลาสต้องแสดงเบื้องลึกที่อยู่ในใจออกมา

"โทบี สตีเฟนส์" (Die Another Day, 13 Hours, Lost In Space) รับบทเป็น "จ่าบิล บีแมน" หัวหน้าของหน่วยพิเศษที่นำทีมปฏิบัติภารกิจชิงตัวประธานาธิบดีรัสเซียที่ถูกจับเป็นตัวประกัน อีกหนึ่งตัวละครที่มีส่วนชี้เป็นชี้ตายชะตากรรมสงครามที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกขณะ เขาคือตัวละครที่เต็มไปด้วยมิติที่หลากหลาย ทั้งความเก๋า อารมณ์ขัน ตลกร้าย ดราม่า อัดแน่นอยู่ในคนๆ เดียว

Credit: Sahamongkolfilm, IMDb

Go to TOP