Film Focus By Boom FM 90.5 : BD & DVD " Cowboys and Aliens (2011) "


สุดยอดโปรเจคท์ใหม่แนวแอ็คชั่น ไซไฟ ของผู้กำกับพันล้านจาก IRON MAN จอน แฟฟโรว์ ให้แฟนหนังได้มันส์ระห่ำกันในสงครามพันธุ์เดือด คาวบอยปะทะเอเลี่ยน !!!

ในปี 1873 ดินแดนอริโซนา ชายแปลกหน้า (เคร็ก) ที่ไม่มีความทรงจำในอดีตหลงเหลืออยู่เลย ได้บังเอิญผ่านเข้ามาในแอ็บโซลูชัน เมืองใจกลางทะเลทราย สิ่งเดียวที่บอกใบ้ถึงอดีตของเขาคือกุญแจมือลึกลับที่ห้อยอยู่ที่ข้อมือข้างหนึ่งของเขา สิ่งที่เขาค้นพบก็คือชาวเมืองแอ็บโซลูชันไม่ต้อนรับคนแปลกหน้า และก็ไม่มีใครเดินตามท้องถนนเว้นเสียแต่ได้รับคำสั่งจากร้อยโทกฎเหล็ก โดลาร์ไฮด์ (ฟอร์ด) นี่เป็นเมืองที่ชาวเมืองใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ความกลัวโดยแท้

แต่แอ็บโซลูชันก็กำลังจะได้สัมผัสกับความกลัวที่น่าสะพรึงยิ่งกว่านั้น เมื่อเมืองที่โดดเดี่ยวแห่งนี้ถูกผู้มาเยือนจากฟากฟ้าโจมตี สัตว์ประหลาดเหล่านี้ที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงและมาพร้อมกับแสงจ้าแสบตาเพื่อลักพาตัวชาวเมืองผู้ไม่อาจปกป้องตัวเองได้ไปทีละคน ได้ท้าทายทุกสิ่งที่ชาวเมืองเคยรู้จัก

บัดนี้ ชายแปลกหน้าที่พวกเขาเคยปฏิเสธกลับกลายเป็นความหวังในการรอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวของพวกเขา ขณะที่มือปืนหนุ่มคนนี้เริ่มจดจำได้ว่าเขาเป็นใครและเขามาจากที่ไหน เขาก็ค้นพบว่าตัวเองซ่อนความลับที่อาจทำให้เมืองแห่งนี้มีโอกาสที่จะตอบโต้กลับเหล่าเอเลียนได้ ด้วยความช่วยเหลือจากนักเดินทางผู้เร้นกาย เอลลา (โอลิเวีย ไวลด์) เขาก็ได้รวบรวมผู้ช่วยที่เคยเป็นคู่ปรับในครั้งเก่าของเขามาก่อน ซึ่งประกอบไปด้วยชาวเมือง โดลาร์ไฮด์และลูกสมุน พวกนอกกฎหมาย และนักรบอาปาเช เพื่อรับมือกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่คุกคามพวกเขาอยู่ เมื่อพวกเขารวมตัวกันต่อต้านศัตรูเดียวกัน นั่นหมายถึงการเตรียมพร้อมสำหรับการเผชิญหน้าครั้งสำคัญเพื่อความอยู่รอดของพวกเขา

Cowboys and Aliens เคยปรากฏโฉมในรูปแบบนิยายภาพความยาว 100 หน้า เมื่อปี 2006 โดย สก็อตต์ มิทเชลล์ โรเซนเบิร์ก แห่งค่ายหนังสือการ์ตูนอินดี้ Platinum Studios ที่ทำให้ไอเดียของการนำเรื่องสองแนวที่ไม่น่าจะเข้ากันได้ทั้งตะวันตก และนิยายวิทยาศาสตร์มารวมกันเป็นรูปธรรมมากขึ้นจนไปเข้าตาผู้อำนวยการสร้างและผู้กำกับ สตีเว่น สปีลเบิร์ก พร้อมเปิดโอกาสให้ได้เกิดบนโลกภาพยนตร์ โดยผู้ที่รับหน้าที่กำกับตกเป็นของ จอน แฟฟโร จาก Iron Man ทั้ง 2 ภาค

สิ่งที่ทางทีมผู้สร้างต่างย้ำว่าหนังเรื่องนี้ตั้งใจทั้งซื่อตรงต่อแนวหนัง ทั้งตะวันตกและไซ-ไฟ เช่นเดียวกับหาจุดบรรจบที่เหมาะเจาะของการผสานแนวหนังทั้งสองแล้ว ยังมีอีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจซึ่งมีที่มาจากหนังสือการ์ตูนต้นฉบับคือการรวมกลุ่มของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ซึ่งแก่นเรื่องหลักว่าด้วยคนที่เป็นศัตรูกันมารวมกลุ่มเพื่อต่อสู้กับศัตรูของส่วนรวม และมีฉากหลักที่อยู่ในช่วงเวลาเฉพาะในยุคหนึ่ง ดังนั้นทีมงานจึงยึดถือเป็นแรงบันดาลใจในการทำหนังเรื่องนี้

ที่สำคัญการดัดแปลงและแปลความหมายยังดูจะเป็นการเชื่อมโยงเรื่องราวในประวัติศาสตร์ยุคบุกเบิกตะวันตกที่เราได้รับรู้กันมานาน ให้มาสอดคล้องกับพล็อตอย่างเอเลี่ยนบุกโลกได้อย่างลงตัว ซึ่งประเด็นที่ว่าด้วยวัฒนธรรมที่มีเทคโนโลยีที่ด้อยกว่าย่อมรู้สึกว่าไร้ซึ่งอำนาจ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่เป็นฝ่ายครอบครองเทคโนโลยี เป็นการอ้างอิงถึงเทพลิขิตหรือโองการของพระเจ้า (Manifest Destiny) อันเป็นวลีเชิงปรัชญาที่เกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 ว่าสหรัฐอเมริกามีภารกิจที่ถูกกำหนดไว้โดยเทพหรือพระเจ้าให้ทำการขยายพรมแดนจากชายฝั่งแอตแลนติกทางตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือ ออกไปทางตะวันตกจนจรดชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก

ดังนั้นจากที่ในประวัติศาสตร์พวกคาวบอยหรือผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยุโรปเป็นฝ่ายที่ยึดถือความเชื่อในเทพลิขิต เพราะครอบครองเทคโนโลยีที่เหนือพวกชนอินเดียนพื้นเมือง แต่พอมาในหนังเรื่องนี้ พวกคาวบอยกลับตกเป็นฝ่ายที่มีเทคโนโลยีด้อยกว่าพวกเอเลี่ยน ดังนั้น พวกเอเลี่ยนจึงพลิกกลับมาเป็นเจ้าของความเชื่อเรื่องเทพลิขิตแทน ทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ซึ่งไม่ได้มีแค่พวกคาวบอย แต่ยังรวมถึงพวกอินเดียนต่างตกอยู่ในสถานะผู้ด้อยกว่าไม่ต่างกัน และจำต้องมารวมกลุ่มกัน ซึ่งจะเป็นไปไม่ได้เลยหากพวกเขาไม่มีศัตรูร่วมกันที่สำคัญกว่า !!!




รายงานโดย MR.Numchok

[ www.facebook.com/Numchok Angkinan ]

Go to TOP